ว่ากันต่อถึงบุคคลที่ขงเบ้งพ่ายแพ้อย่างราบคาบคนที่สอง แต่ก่อนที่ผมจะเล่าถึงบุคคลผู้นี้ผมอยากจะให้เห็นแสนยานุภาพของขงเบ้งซึ่งเป็นบุคคลที่สมัยผมยังวัยรุ่นพยายามเลียนแบบทั้งแนวคิดและอุปนิสัย
เป็นอีกตอนที่ผมชื่นชอบอย่างมาก ตอนที่ขงเบ้งใช้กลอุบายในการหลอกล่อสุมาอี้ให้ออกมารบเพราะทางขงเบ้งเดินทางมาไกลทำให้เสบียงไม่พอ หลอก 1 คือ หลอกว่าตัวเองเตรียมตัวจะทำศึกยืดเยื้อ หลอก 2 คือ หลอกให้สุมาอี้คิดว่าว่าตัวเองจะทำศึกยืดเยื้อ หลอก 3 คือ หลอกว่าเสบียงอยู่เซียมก๊ก ไม่ใช่กิสาน หลอก 4 คือ แกล้งให้ทหารที่เซียมก๊ก ยกออกไปช่วยกิสาน เพราะรู้ว่าสุมาอี้จะหลอกมาตีกิสาน แต่จริงๆ จะตลบหลังไปตีเซียมก๊ก
แผนการหลอกครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่มีความสามารถขนาดขงเบ้งเลยแม้แต่น้อย การหลอกล่อคู่ต่อสู้ที่รู้เท่าทันกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งแต่ขงเบ้งสามารถทำได้ ในทางกลับกันผมจะมีบุคลิกลักษณะเหมือนกับคนที่ขงเบ้งพ่ายแพ้มากกว่า บุคคลนี้เป็นบุคคลที่สร้างความลำบากให้กับขงเบ้งตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าเข้ามาทำศึก คนนั้นก็คือ เล่าปี่ นั่นเอง
เล่าปี่เป็นคนเดียวที่ขงเบ้งให้ความเคารพและนับถือ ด้วยความที่เป็นคนจิตใจดี มีเมตตาและมีคุณธรรมอันสูงส่งทำให้คนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างขงเบ้งยอมที่จะติดตามและช่วยเหลืองานในทุกๆ เรื่อง ขนาดเล่าปี่ตายแล้วขงเบ้งยังพยายามเขียนหนังสือเพื่อตักเตือนเล่าเสี้ยนผู้เป็นบุตรของเล่าปี่
ผมเคยเปรียบเทียบตัวเองด้านคุณธรรมกับเล่าปี่ ซึ่งผมยอมรับว่าในสมัยเด็กประมาณ 10 ขวบถ้ามีกล่องเกิดใหม่เกิดขึ้น ผมจะไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปในกล่องนั้น และผมก็ยังเชื่อว่าความทุกข์ทรมานในสมัยเด็กของผมจะช่วยคนที่เป็นโรคซึมเศร้าในสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี นี่อาจจะเป็นคุณธรรมที่ผมมีในตัวและเพื่อน ๆ ผมในสมัยนั้นก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมเหมือนเล่าปี่มากกว่าขงเบ้ง
และเมื่อผมโตขึ้นมา ผมก็รู้ว่าเพื่อนๆ ผู้ใหญ่ในสมัยนั้นที่คอยปกป้องผมเรื่อยมาจากคนไม่ดี คนสีดำ คนสีเทาในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะทุกๆ คนคือขงเบ้งที่คอยปกป้องคนที่ดีมีคุณธรรม อาจจะดูเป็นการยกหางตัวเองพอสมควรแต่ก็คือเรื่องจริงครับ ผมใช้ชีวิตที่ไม่เคยกลัวความตายมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบและถ้าเพื่อนๆ หรือผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างผมไม่เก่งพอที่จะใช้ทุกๆ แผนการในการต่อสู้กับโลกมืดในสมัยนั้น ผมคงไม่มีชีวิตถึงทุกวันนี้เพราะผมโครตจะซื่อบื้อเลย
ซึ่งนั่นก็คือบุคลิกของเล่าปี่ เล่าปี่เป็นคนที่ซื่อ รักคุณธรรม รักเพื่อนฝูง แต่ข้อเสียคือ ซื่อบื้อเชื่อคนง่าย หลงกลคนอื่นได้ง่าย และข้อเสียที่เล่าปี่มีเหมือนผมก็คือ เล่าปี่จะไม่ทำในสิ่งที่ขัดคุณธรรมในตัวเอง เช่น ไม่ยอมรับแคว้นเกงจิ๋วไว้เป็นฐานที่มั่นต่อสู้โจโฉ ทั้งที่เหล่าแม่ทัพรวมทั้งขงเบ้งขอให้รับไว้ ทำให้ต้องเหนื่อยยากแสนสาหัสในการเก็บข้าวของหลบหนีโจโฉ
ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไรยากเลยครับ แค่เล่าปี่จะไม่ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่สบายใจหรือขัดกับคุณธรรมในตัวเอง ผมเองก็เป็นเช่นนั้นมีคนเสนอให้ผมทำเว็บการพนันโดยให้รายได้หลายแสนบาท ผมไม่ทำคือคำตอบที่ผมบอกเขาไป
ต่อให้ผมจะทำเว็บหลักพันหรือทำงาน Engineer Support ที่เหนื่อยยาก โดนดูถูก ถูกเอาเปรียบมากขนาดนั้นก็ยังสบายใจมากกว่าการไปทำเว็บการพนันที่มีรายได้หลายแสนบาท (จริงๆ ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นนะครับ แค่เปรียบเทียบ)
ผมเคยพยายามเลียนแบบขงเบ้งในสมัยวัยรุ่นแต่ก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ทั้งหมดเพราะ สวรรค์ให้บุคลิกแบบเล่าปี่กับผมมา ไม่ได้ให้บุคลิกแบบขงเบ้ง และทุกวันนี้ผมก็ไม่พยายามฝืนกฏสวรรค์เช่นกัน
บทสรุปก็คือ ถ้าอยากจะชนะคนที่ฉลาดอย่างขงเบ้งมีอยู่ 2 วิธี
- เป็นเพื่อนคู่คิดที่จริงใจเหมือนม้าเจ๊ก แต่อย่าทะเยอทะยานตนเองมากเกินไป
- มีคุณธรรมเฉพาะตัวเหมือนเล่าปี่ แต่ต้องเรียนรู้ผู้คนให้เยอะกว่านี้
แต่อย่าพยายามเลียนแบบหรือฝืนกฏของสวรรค์มากเกินไปเหมือนขงเบ้ง เพราะการต่อสู้กับชะตาฟ้านั้นยากยิ่งกว่าการต่อสู้บนโลกมนุษย์หลายสิบเท่า ขอบคุณครับ